วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553

lecture 4

ดูเว็บ time.com  มีเนื้อหาสาระมากมาย
วันนี้เรียนเรื่องส่วนประกอบของหนังสือ  ซึ่งมีดังนี้คือ
 หน้าชื่อเรื่อง ในส่วนของหน้าปก   มีผู้แต่ง    
หน้าอุทิศ  เป็นหน้าที่ของผู้แต่งระบุว่า อุทิศผลงาน ผู้หนึ่งผู้ใด   
หน้า copyright   หน้าลิขสิทธ์
หน้าสารบัญ
อภิธานศัพท์ the  giossary  พจนานุกรมศัพท์
Index    ดัชนี  เป็นส่วนที่คล้ายกับสารบัญ เรียงตามตัวอักษร  
Hurricanes    เป็นหน้าปก  ส่วนประกอบก็จะมีชื่อเรื่อง 
หน้า
การจัดหนังสือ จะแบ่งตามตัวเลขระบบทศนิยมบิวตี้ 
000  ความรู้ทั่วไป
100   จิตวิท
200  ศาสนา
300  สังคม
400   ภาษาต่างๆ
500   เคมี วิทยาศาสตร์
600  วิทยาศาสตร์ประยุกต์
700  นันทนาการ 
800   วรรณกรรม 
900  ประวัตศาสตร์

  เลขเรียกหนังสือ  call  number 
              dewey   เลขหมวดหมู่  อยู่ด้านบน
                           เลขผู้แต่ง  
หลัก   เรียงตามการแบ่งประเภท   เรียงจากน้อยไปหามาก  เลขผู้แต่ง
การจัดเรียงหนังสือนั้นเราจะเรียงจกบนลงล่าง  ซ้ายไปขวา    
               Opac  onlie  public  access  catalogs  www.opac.com
ใช้ค้นหาทรัพยากรในห้องสมุดเท่านั้น  ซึ่งในห้องสมุดนั้นจะมีทรัพยากร คือ  หนังสือ วารสาร  หนังสือพิมพ์  แผ่น cd    
Isbn   เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ
Issn     เลขมาตรฐานสากลประจำวารสาน
 Imprint  พิมพ์ลักษ์ เมืองที่พิมพ์  สำนักพิมพ์  ปีที่พิมพ์
Fdition  ครั้งที่พิมพ์


วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553

iecture 3

วันนี้อาจารย์ได้พามาศึกษา ณ  ห้องสมุดเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตสุรินทร์  ได้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ห้องสมุด
คือการยืมและการคืนหนังสือ  ข้อบังคับหรือกฎระเบียบของการใช้ห้องสมุดอย่างถูกระเบียบ  ห้องสมุดได้มีการจัดหนังสือ 3  โซน คือโซนแรกนั้นเป็นหนังสือตามหมวดหมู่วิชา ซึ่งจะมีหมายเลขหนังสือกำกับไว้ที่ด้านสันของหนังสือเพื่อใช้เทคโนโลยีอย่างคอมพิวเตอร์ในการตรวจหาหนังสือ เพื่อความสะดวก รวดเร็วและง่ายต่อการใช้งานอีกด้วย
โซนที่สองก็จะเป็นในเรื่องของนิตยสาร ซึ่งจะมีทั้งความบันเทิง  การเมืองทางสังคม  เป็นโซนที่จัดหนังสือตามตัวอักษรไม่มีคอมพิวเตอร์ในการช่วยในการหาหนังสือ  มีแต่เจ้าหน้าที่สอบถามและประเภทนิตยสารนั้นจะมีการยืมได้วันเดียวเท่านั้น
ส่วนโซนที่สามนั้นอยู่ด้านบนซึ่งจะเป็นทั้งหนังสือเก่า จนแบบว่ารุ่นใหม่นั้นไม่เคยอ่านและต้องมาศึกษาเพิ่มเติม และอีกด้านหนึ่งของหนังสือเก่านั้นจะเป็นหนังสือภาษาอังกฤษ  ซึ่งน้อยคนนักที่มีคนขึ้นมาศึกษา
ในเรื่องของการสมัครการยืมหนังสือนั้น  มีหลักฐานดังนี้คือ สำเนาบัตรประจำตัวนักศึกษา และใบเสร็จจ่ายค่าลงทะเบียนเรียน 

วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ข้อคิดเห็นที่ได้จากหนัง

1. สอนการซื้อของอย่างจำเป็น
2. สอนการประหยัด
3. ความรวยนั้นถึงจะมีความสุข
4. ความอยากมีหรืออยากได้ต้องแลกกับความอดทนต่ออุปสรรค
5. หนังเรื่องนี้ให้ความเพลิดเพลินกับการจับจ่ายใช้ส่อยของนางเอกตัวละคร
6. การแต่งตัวให้เหมาะกับสถานที่ที่จะไป
7. รู้จักอาชีพการเป็นนักเขียน
8. รู้จักวัฒนธรรมของชาวต่างชาติ
9. รู้การทำงานเป็นนักเขียน
10.รู้จักการเป็นคนที่เข้ากับคนได้ง่าย

วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

จากหนังเรื่อง confessins of a shopaholic

ที่ชมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้มีความคิดกับหนังเรื่องนี้ว่า หนังได้บอกกับเราเรื่องของการเงิน การใช้เงิน การเห็นความสำคัญของเงิน ซึ่งสมัยและยุคใหม่นั้นมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจเรื่อยๆ นี่สะท้อนว่า คนเราสมัยนี้คิดว่า ถ้าจะได้ดีแปลว่าต้อง "รวย" รวยแปลว่าดี เพราะคิดว่ามีเงินเยอะก็ซื้อความสุขได้เยอะ แต่ความจริงคนรวยๆมีทุกข์เยอะไปนะครับที่จริง นิยามความสุขของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน อย่างของรีเบ็คก้า บลูมวูด ความสุขของเธอคือการได้ซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของประดับ ไปจนถึงผ้าพันคอแบรนด์เนม ถึงแม้ว่าเงินในกระเป๋าจะเหลือเท่าไรก็ตามเธอบรรยายว่า เวลาที่เธอได้ซื้อของสวยๆ ดูเหมือนโลกนี้ราวจะสวยงามไปตามกันแต่ความรู้สึกนั้นจะดับลงหลังจากนั้นไม่นาน เธอจึงต้องเริ่มซื้อของชิ้นใหม่อีกครั้ง ความสุขทางโลกเป็นอย่างนี้เองครับ ไม่ว่าจะใช้เงินซื้อหรือไม่ คือมันสุขได้ชั่วคราว
ผู้หญิง ถึงไม่เคยยินดีในกระเป๋าใบเดียว รองเท้าคู่เดิม ตุ้มหูคู่เก่า
ผู้ชาย ถึงไม่ค่อยยินดีในแฟนคนเดียว รถคันเดิม เครื่องเสียงชุดเก่า
เพราะความสุขที่มีจากการได้มา มันแสดงอนิจจัง มันอยู่ชั่วคราวแล้วก็จากไป เราจึงต้องดิ้นรนหาของใหม่ มาสนองความอยากได้ใคร่มีต่อไป อยากได้แล้วไม่ได้ ก็ทุกข์เพราะไม่สมในอยาก อยากได้แล้วได้มา ก็ทุกข์อีก เพราะการมีอยู่ ก็เป็นภาระต้องดูแลรักษา ไม่ให้มันเสื่อมมันโทรมสูญหาย คนมีบ้าน ก็ทุกข์เพราะบ้าน ต้องทำนุบำรุงดูแล ต้องเฝ้าระวัง ไม่ให้ขโมยขึ้น
คนมีรถ ก็ทุกข์เพราะรถ ต้องคอยขัดล้างดูแล ซ่อมแซม เติมน้ำมัน ทำประกัน เสียภาษี หาที่จอด  คนมีแฟน ก็ทุกข์เพราะแฟน ต้องคอยหวงคอยห่วงไปจนถึงคอยหึง ต้องคอยเอาใจใส่ ฯลฯ  พูดซื่อๆ ดิ้นรนอยากจะสุข แต่สิ่งที่ได้มากลับเป็นทุกข์ง่ายๆเสียอย่างนั้น ในตอนท้ายเรื่อง รีเบ็คก้าเรียนรู้ว่า การได้มาซึ่งความสุขชั่วคราวที่เงินซื้อหาได้ บางทีกลับทำให้เธอต้องสูญเสียอะไรที่สำคัญยิ่งกว่าไป ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้ มองในแง่ดี ก็เหมือนโอกาสที่เราจะหยุดทบทวนชีวิตเรา ว่า..แท้ที่จริงแล้ว เราต้องการอะไรในชีวิตกันแน่ ความสุขที่ต้องอาศัยเงิน สิ่งของนอกกายหรือความสุขที่หาได้โดยอาศัยสติปัญญาภายในใจของเรานี่แหละ

lecture 2

            
                 จากหนังเรื่อง confessins  of a shopaholic

            มีสาวคนหนึ่งชื่อ   รีเบคกา บลูมวูด  เป็นสาวหวานทรงสเน่ห์แห่งนิวยอร์คซิตี้ เป็นผู้หญิงที่ติดการซ้อปปิ้ง เป็นชีวิตจิตใจ จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ของเธอคือช้อปปิ้งจนเงินในบัตรเครดิตไม่เหลือเงินแถมต้องมาติดหนี้อีก ในขณะที่เธออยากเข้าทำงานเป็นนักเขียนนิตยสารแฟชั่นชื่อดังแห่งหนึ่ง  จึงทำให้เธอต้องปรับตัวให้เข้ากับสมัย ด้วยความเป็นผู้หญิงที่จะต้องมีการแต่งตัวเพื่อเสริมความมั่นใจในตัวเองจึงออกไปเดินช้อปปิ้งด้วยเงินที่ไม่มากนัก เธอเหลือบไปเห็นผ้าพันคอสีเขียวผืนหนึ่ง เธออยากได้ แต่ราคากับจำนวนเงินที่มีอยู่นั้นไม่พอจ่าย เธอก็หาวิธีที่จะได้ผ้าพันคอผืนนั้น  โดยการซื้อขนมปังจากร้านข้างๆ  ไปขายเพื่อเพิ่มมูลค่าขายได้กำไรมาซื้อผ้าพันคอผืนนั้น  แต่ไม่ได้ผลเพราะเจอกับชายคนหนึ่งชื่อ ลุค  แบรนคอน แล้วหลอกผู้ชายคนนั้นว่านำเงินไปซื้อผ้าพันคอให้คนยากคนจน เขาหยิบเงินจำนวนหนึ่งให้  เธอดีใจรีบวิ่งไปซื้อผ้าพันคอสีเขียวที่เธออยากได้มากที่สุด วันต่อมาเป็นวันที่เธอต้องนำเนื้อหาของคอลัมน์ไปเสนอ ทำให้ต้องมาเจอกับชายคนหนึ่งที่ชื่อ  ลุค แบรนดอน  ซึ่งเป็นเจ้าของนิตยสารการเงินเล่มที่เธอเขียนคอลัมน์นั้นและเป็นคนๆ เดียวกับคนที่อยู่ร้านขนมปัง   การแต่งตัวของเธอมีผ้าพันคอสีเขียว เดินขึ้นไปที่ห้อง ของลุค  แบรนคอน    เธอเห็นหน้าก็รีบวางผ้าพันคอสีเขียนไว้ที่โต๊ะทำงาน       ซึ่งลุค  แบรนคอน  จำได้ว่าเคยให้เงินเธอ   แล้วเริ่มทำการสัมพาทงานที่เธอเขียนหนังสือ  จากนั้น ลุค   แบรนคอน  ได้ถามถึงชื่อ นามสกุล สอบถามเรื่องงาน   ต่อมามีเลขาคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับผ้าพันคอสีเขียว ให้เธอ  จากนั้น ลุค  แบรนคอน  รู้ทันทีว่าเธอนั้นจะต้องนำเงินไปซื้อผ้าพันคอสีเขียวนั้นแน่   เลยไล่เธอกลับทั้งๆ ที่ยังไม่ได้คุยเรื่องงานเพราะเธอหลอก  ลุค  ที่เป็นกระทั่ง บ.ก. ของเธอ   ต่อมาเธอก็ไม่ล้มความพยายามของเธอโดยการนำบทที่เธอเขียนนั้นส่งไปยังบริษัทใหญ่ๆ ดังๆ  จดหมายที่เธอส่งไปนั้น บริษัทของ ลุค  แบรน ก็ได้รับด้วย เลยได้อ่านคอลัมน์ของเธอ ที่ชื่อ   หญิงสาวกับผ้าผ้าพันคอสีเขียว   ก็เกิดความเข้าใจในความเป็นตัวตนของเธอขึ้นมา  หลายบริษัทได้อ่านหนังสือได้ยินยอมรับในการเขียนหนังสือของเธอ เพียงชั่วข้ามคืน คอลัมน์ของเธอกลับฮิตติดลมบนจนทำเธอกลายเป็นคนดังขึ้นมา แต่เมื่ออาการเสพติดช้อปปิ้ง และบรรดาหนี้สินที่เพิ่มพูนขึ้นเริ่มคลืบคลานเข้ามามีผลกระทบกับชีวิตรัก และหน้าที่การงานของเธอ เธอจึงต้องทำการปฏิวัติตัวเองครั้งยิ่งใหญ่ และจัดระเบียบชีวิตเธอเองว่าอะไรกันแน่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
             การใช้ชีวิตของหญิงสาวสมัยใหม่ที่ต้องต่อสู้กับสิ่งเย้ายวนใจที่สุดของหญิง สาวทุกคนบนโลก แฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ของแบรนด์เนม และ การช้อปปิ้ง พบกับสุดยอดแฟชั่นจากแบรนด์ดัง และเทรนด์แฟชั่นสุดล้ำที่สาวนักช็อปและหนุ่มเมโทรไม่ควรพลาด
                        

ประโยชน์ของการใช้ google


1.  Google สามารถเป็นเครื่องคิดเลขได้ โดยพิมพ์โจทย์แล้วคลิ๊กที่ค้นหา แล้วก็จะเจอคำตอบ
2.  Google  สามารถคิดเลขยกกำลังได้  โดยจะใช้ "^" เป็นสัญญาลักษณ์แทนยกกำลัง และมีการแก้สมาการทางคณิตศาสตร์ได้
3.  Google   สามารถแปลภาษาได้ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรือต่างประเทศ เพียงแค่ พิมพ์ "แปลภาษา" แล้วกดที่ค้นหา  
4.  Google maps สามารถมองเห็นทั่วประเทศได้โดยการเลือกว่าต้องการ
5.  Google  Gmail หรือ Google Mail เป็นบริการ  e- mail  ฟรีและมีขนาดพื้นที่เก็บเพื่อที่จะส่งข้อมูลโต้ตอบกัน บริการนี้สมัครงานฟรี
6.  Google  เป็นจุดรวมแหล่งความบันเทิงต่างไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง   การฟังเพลง  รูปภาพต่าง
7.  Google   เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารไม่ว่าจะเป็นข่าวสารการเมือง หรือแหล่งที่ให้ความรู้เพิ่มเติม
8.  Google  สามารถเป็นสื่อกลางในการเรียนรู้การเรียนการสอนหรือสอบได้
9.  Google สามารถตรวจสอบตัวอักษรได้อย่างถูกต้องได้
10.
Google : Froogle  สามารถชอปปิ้งค้นหาสินค้าต่างๆ ในร้านค้าออนไลน์

วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553